หมวดข้อสอบ STRUCTURE (ตอนที่ 209)
การประปาส่วนภูมิภาค “มุ่ง-มั่น-เพื่อปวงชน”
Direction: Choose the most appropriate answer for each question.
(จงเลือกคำตอบที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละคำถาม)
1. Sylvia : Let’s get together sometime soon.
Paul : Yes. Connie and I have been meaning to have you over.
Question : What does Paul mean ?
(a) He intends to invite Sylvia to their home. (เขาตั้งใจจะเชิญซิลเวียมาที่บ้านของพวกเขา)
(“To mean to” เป็นสำนวน หมายถึง “ตั้งใจ, เจตนา, มุ่งมั่น” และ “To have someone over”
หมายถึง “เชิญบุคคลนั้นมาที่บ้าน”)
(b) He does not want to see Sylvia. (เขาไม่ต้องการพบซิลเวีย) (ไม่จริง เขาต้องการเชิญเธอมาที่บ้าน)
(c) He is not very polite to Sylvia. (เขาไม่สุภาพกับซิลเวียอย่างมาก) (การสนทนามิได้กล่าวถึง)
(d) He prefers seeing Connie. (เขาชอบพบคอนนี่มากกว่า) (การสนทนามิได้กล่าวถึง)
(e) He and Connie wants to have a party outside their home. (เขาและคอนนี่ต้องการจัดงานเลี้ยงนอก
บ้านของตน) (ไม่จริง ทั้งคู่ต้องการเชิญซิลเวียมาจัดงานเลี้ยงที่บ้าน)
(คำแปล)
ซิลเวีย : เรามาพบปะสังสรรค์กัน (get together) เวลาใดเวลาหนึ่ง (บางครั้ง, บางคราว) (sometime)
เร็วๆ นี้เถอะค่ะ
พอล : ครับ, คอนนี่ (เพื่อนอีกคนหนึ่ง) และผมตั้งใจ (มีเจตนา) (meaning to) ที่จะเชิญคุณมาที่บ้าน
(ของพวกเรา) (have you over) ครับ
คำถาม : พอลหมายความว่าอะไร ?
ตอบ - ข้อ (a)
2. Anne : Have you read the book I gave you last week ? What do you think about it ?
Mark : I read it over and over again but couldn’t make out what the author means to communicate
to her readers.
Question : What does Mark mean ?
(a) He does not like the book. (เขาไม่ชอบหนังสือ) (การสนทนามิได้กล่าวถึง)
(b) He has not read the book yet. (เขายังไม่ได้อ่านหนังสือ) (ไม่จริง เขาอ่านหลายครั้งแล้ว)
(c) He likes the book. (เขาชอบหนังสือ) (การสนทนามิได้กล่าวถึง)
(d) He intends to communicate with the author of the book. (เขาตั้งใจจะสื่อสารกับผู้เขียนหนังสือ)
(เป็นการแปลความหมายคำพูดของมาร์คที่ไม่ถูกต้อง)
(e) He read the book many times but could not understand what the author wants to
tell readers. (เขาอ่านหนังสือหลายครั้ง แต่ไม่สามารถเข้าใจว่าผู้เขียนต้องการจะบอกอะไร
กับผู้อ่าน) (“Over and over” หรือ “Over and over again” หรือ “Time after time” หรือ
“Time and again” หรือ “Time and time again” เป็นสำนวน หมายถึง “หลายครั้งหลายหน,
ซ้ำแล้วซ้ำอีก, ในหลายๆ โอกาส”)
(คำแปล)
แอน : คุณได้อ่านหนังสือที่ฉันให้คุณสัปดาห์ที่แล้วหรือยัง, คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับมันคะ
มาร์ค : ผมอ่านมันหลายครั้ง (ซ้ำแล้วซ้ำอีก) (over and over again) แต่ไม่สามารถเข้าใจ (make out)
ว่าผู้เขียนตั้งใจ (มุ่งหมาย, มีเจตนา) (means to) จะสื่อสารอะไรกับผู้อ่านของเธอครับ
คำถาม : มาร์คหมายความว่าอะไร ?
ตอบ - ข้อ (e)
3. Jack : Do you know about the songs to which we listened last night ?
Emmy : I wouldn’t know. Those songs were before my time.
Question : What does Emmy mean ?
(a) She did not listen to the songs. (เธอไม่ได้ฟังเพลง) (ไม่จริง เธอฟังแต่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมัน เช่น
ใครแต่งใครร้อง)
(b) She likes the songs. (เธอชอบเพลง) (การสนทนามิได้กล่าวถึง)
(c) She heard the songs before. (เธอได้ยินเพลงนี้มาก่อน) (การสนทนามิได้กล่าวถึง)
(d) The songs existed before she was born or before she was old enough to remember
them. (เพลงมีอยู่ก่อนเธอเกิด หรือก่อนเธอโตพอที่จะจำมันได้) (“Before my time” เป็นสำนวน
หมายถึง “เกิดขึ้นหรือมีอยู่ก่อนที่ฉันเกิด หรือก่อนฉันโตพอที่จะจำได้”)
(e) The songs were not sweet enough for her to listen to. (เพลงนี้ไม่เพราะพอที่เธอจะฟัง) (การสนทนา
มิได้กล่าวถึง)
(คำแปล)
แจ๊ค : คุณทราบเกี่ยวกับเพลงที่เราฟังเมื่อคืนนี้ไหมครับ
เอ็มมี่ : ฉันไม่ทราบหรอก เพลงพวกโน้นเกิดขึ้น (มีอยู่) ก่อนฉันเกิด (ก่อนฉันโตพอที่จะจำมันได้)
(before my time) ค่ะ
คำถาม : เอ็มมี่หมายความว่าอะไร ?
ตอบ - ข้อ (d)
4. Sam : It’s your turn to call the names on the list if you want to.
Kim : I think I’ll pass this time.
Question : What is Kim going to do ?
(a) Spend some time with Sam. (ใช้เวลาอยู่กับแซม)
(b) Make a list of the names. (จัดทำรายชื่อ)
(c) Pass out the names. (แจกจ่ายรายชื่อ)
(d) Let someone else call the names. (ปล่อยให้คนอื่นเรียกชื่อ) (“Pass” ในที่นี้ หมายถึง
“ผ่านไป, ข้ามไป” คือ ไม่ทำเมื่อถึงคราวของตน แต่ผ่านไปให้คนอื่น - คนต่อไป - ทำ)
(e) Pass the time by calling the names on the list. (ฆ่าเวลาโดยการเรียกชื่อในรายชื่อ)
(คำแปล)
แซม : มันถึงตา (คราว, เวร) (turn) ของคุณที่จะเรียก (ขาน) ชื่อในรายชื่อ ถ้าคุณต้องการทำครับ
คิม : ฉันคิดว่าฉันจะผ่านไป (ข้ามไป) (pass) ครั้งนี้ค่ะ (คือ ไม่เรียกชื่อ)
คำถาม : คิมจะทำอะไร ?
ตอบ - ข้อ (d) สำหรับ ข้อ A, B, C และ E เป็นการแปลความหมายคำพูดของแซมและคิมที่ไม่ถูกต้อง
5. Helen : I’m pretty sure that the deadline for applications has passed.
Rob : Why don’t you let me look into it for you ?
Question : What does Rob mean ?
(a) Helen has missed the deadline. (เฮเลนได้เลยเส้นตายไปแล้ว) (เป็นเพียงข้อสรุปของเฮเลน ไม่ใช่
ของร้อบ)
(b) He will investigate the situation. (เขาจะสืบสวนสถานการณ์ – เรื่องการสมัครของเฮเลน)
(“To look into something” เป็นสำนวน หมายถึง “สืบสวน, สอบสวน, ไต่สวน, สำรวจ”)
(ร้อบอาสาจะไปดูให้ว่าการสมัครของเฮเลนพ้นเส้นตายหรือยัง)
(c) The deadline has been canceled. (เส้นตายได้ถูกยกเลิกแล้ว) (การสนทนามิได้กล่าวถึง)
(d) An exception might be possible. (ข้อยกเว้นอาจเป็นได้) (การสนทนามิได้กล่าวถึง)
(e) He will look for Helen’s application form. (เขาจะค้นหาใบสมัครของเฮเลน) (เป็นการแปลความหมาย
คำพูดของร้อบที่ไม่ถูกต้อง)
(คำแปล)
เฮเลน : ฉันค่อนข้างแน่ใจว่าเส้นตายสำหรับการสมัครได้ผ่านไปแล้วค่ะ
ร้อบ : ทำไมคุณไม่ให้ผมสืบสวน (สำรวจ, สอบสวน, ไต่สวน) (look into) มัน (เรื่องนี้) ให้คุณล่ะครับ
คำถาม : ร้อบหมายความว่าอะไร ?
ตอบ - ข้อ (b)
6. Laura : Did you get your tickets ?
Smith : I talked to Judy about it, and she took care of it for me.
Question : What does Smith mean ?
(a) The tickets are lost. (ตั๋วหาย)
(b) Judy was responsible for getting the tickets. (จูดี้รับผิดชอบการหาตั๋ว) (“To take care
of something” เป็นสำนวน หมายถึง “รับผิดชอบเรื่องนั้น-สิ่งนั้น”)
(c) There were no tickets available. (ไม่สามารถหาตั๋วได้)
(d) He does not have his tickets yet. (เขายังไม่ได้ตั๋ว)
(e) He was not sure whether Judy would buy the tickets for him. (เขาไม่แน่ใจว่าจูดี้จะซื้อตั๋วให้เขาหรือไม่)
(คำแปล)
ลอร่า : คุณได้ตั๋วหรือเปล่าคะ
สมิธ : ผมคุยกับจูดี้เกี่ยวกับมัน (เรื่องหาตั๋ว) และเธอดูแล (รับผิดชอบ, เอาใจใส่) (took care of) มัน
สำหรับผมครับ
คำถาม : สมิธหมายความว่าอะไร ?
ตอบ - ข้อ (b) สำหรับ ข้อ A, C, D และ E เป็นการแปลความหมายคำพูดของสมิธที่ไม่ถูกต้อง
7. Mary : Maybe we should take Front Street this morning. The radio announcer said that traffic
was very heavy on the freeway.
Justin : Well, if he says to take Front Street, we should go the other way.
Question : What does Justin imply about the radio announcer ?
(a) He is often wrong. (เขาผิดพลาดบ่อยๆ) (เนื่องจากจัสตินกล่าวว่าพวกตนควรไปทิศทางตรงข้าม
กับเส้นทางที่ผู้ประกาศฯ แนะนำ เขาบอกเป็นนัยว่าผู้ประกาศฯ ผิดพลาดบ่อยๆ) (คือ บอกว่าถนนนี้
รถติด แต่กลับไม่ติด, ส่วนถนนที่บอกว่ารถไม่ติด กลับมีการจราจรหนาแน่น)
(b) He usually recommends the freeway. (เขาโดยปกติแล้วแนะนำให้ใช้ทางหลวง) (การสนทนามิได้กล่าวถึง)
(c) He is not a local radio personality. (เขาไม่ใช่บุคคลที่ทำวิทยุท้องถิ่น) (การสนทนามิได้กล่าวถึง)
(d) He is a popular announcer. (เขาเป็นผู้ประกาศที่ได้รับความนิยม) (การสนทนามิได้กล่าวถึง)
(e) He likes to say traffic is heavy on most streets. (เขาชอบพูดว่าการจราจรหนาแน่นบนถนนส่วนใหญ่)
(การสนทนามิได้กล่าวถึง)
(คำแปล)
แมรี่ : บางทีเราควรใช้ถนน “ฟรอนท์” เช้าวันนี้, ผู้ประกาศวิทยุกล่าวว่าการจราจรหนาแน่นมาก
(traffic was very heavy) บนทางหลวงค่ะ
จัสติน : เอ้อ, ถ้าเขา (ผู้ประกาศฯ) บอกให้ใช้ถนน “ฟรอนท์” เราควรไปอีกทางหนึ่ง (ทางหลวง) ครับ
คำถาม : จัสตินบอกเป็นนัยอะไรเกี่ยวกับผู้ประกาศวิทยุ ?
ตอบ - ข้อ (a)
เรียน ท่านผู้ติดตามอ่าน เว็บไซต์ “everydayenglish.pwa.co.th”
ถ้าท่านมีคำแนะนำให้ปรับปรุงเว็บไซต์นี้ประการใด กรุณาส่ง e-mail ไปที่ ดร. วัชรินทร์ ภูเขาทอง อดีต ผอ. สำนักวิทยาการ การประปาส่วนภูมิภาค ผู้จัดทำเว็บไซต์นี้ ตาม “Address” wpookaotong@yahoo.com (โปรดระบุหัวเรื่องด้วย ว่า “ปรับปรุงเว็บไซต์”) เพื่อที่ผู้จัดทำฯ จะได้ปรับปรุงเนื้อหาได้ตรงตามความประสงค์ของท่าน
- Log in to post comments